แมวเปอร์เซีย (Persian cat) ถือเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยอย่างมาก ด้วยใบหน้าที่น่ารักเหมือนตุ๊กตาและขนที่ยาวหนาฟู จนทำให้หลายๆ คนชอบและอยากเลี้ยง แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเลี้ยงแมว มารู้จักน้องแมวเปอร์เซียให้มากขึ้น ทั้งลักษณะนิสัย การกิน การจัดเตรียมบ้าน การรักษาความสะอาด เพื่อให้เราสามารถดูแลแมวเปอร์เซียได้อย่างดี พร้อมช่วยให้น้องสุขภาพดีไปนานๆ

 น้องแมวเปอร์เซีย มาไกลจากตุรกีและอิหร่าน

แมวเปอร์เซียมีถิ่นกำเนิดมาจากแถบเปอร์เซีย ซึ่งก็คือตุรกีและอิหร่านในปัจจุบัน โดยสันนิษฐานว่าในอดีตกลุ่มพ่อค้าชาวเปอร์เซียได้ขนสินค้าต่างๆ มาขาย ซึ่งก็มีแมวเปอร์เซียติดมากับคาราวานสินค้าด้วย อีกทั้งแมวเปอร์เซียยังได้นำเข้ามาสู่ประเทศยุโรปตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1620 ด้วยความน่ารักของแมวเปอร์เซียทำให้ได้รับความนิยมอย่างมากและแพร่กระจายไปทั่วยุโรป
 

ลักษณะของแมวเปอร์เซีย

แมวเปอร์เซียจะมีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ น้ำหนักเฉลี่ยของเพศชายจะอยู่ที่ 4-6 กิโลกรัมและเพศเมียจะอยู่ที่ 3-5 กิโลกรัม มีโครงกระดูกที่ใหญ่และแข็งแรง หัวและหน้ากลม หน้าผากโหนก จมูกหักแบนอยู่ระดับเดียวกับดวงตาที่กลมโต หูขนาดเล็กปลายหูจะกลมมน โดยจะมีทั้งหน้าแบบแบนสุดๆ Peke-face และแบบหน้ากลมๆ Doll-face ลำตัวจะสั้น ขาสั้น หางสั้น แต่ขนยาวหนาฟู มีความมันวาว นุ่มน่าจับ เมื่อถึงเวลาเดินจะมีท่วงท่าที่สง่างามจนได้ชื่อว่าเป็น “ราชินีแห่งแมว”

นอกจากนี้ยังมีการผสมพันธุ์แมวเปอร์เซียเข้ากับแมวต่างๆ สามารถแบ่งได้ถึง 7 ประเภท โดยแมวไทยวิเชียรมาศของไทยก็นำมาผสมกับสายพันธุ์เปอร์เซียจนเกิดเป็น Himalayan ซึ่งมีลักษณะการแต้มสีขนเข้มเหมือนกับแมววิเชียรมาศ นอกจากนี้ยังมีลักษณะ Solid Colour คือมีสีเดียวตลอดตัว Sliver&Golden ตาจะเป็นสีเขียวหรือสีเขียวอมน้ำเงิน Shade&Smoke จะมีสีขนที่ปลาย Tabby จะมีขนที่เป็นลวดลาย Parti-colour จะเป็นขนสีสลับกัน บางตัวจะเกิดขึ้นเฉพาะเพศเมียเท่านั้น และ Calico & Bi-Color แมวเปอร์เซียที่มีสีขาวเป็นหลัก และอาจมีสีอื่นๆ อีก 1-2 สี

นอกจากหน้าตาที่น่ารักแล้ว อุปนิสัยของแมวเปอร์เซียก็ทำให้เจ้าของอ่อนระทวยไปพร้อมๆ กัน เพราะมีความจงรักภักดีต่อเจ้าของ รักความสงบ ไม่ร้องเสียงดัง ชอบที่จะออดอ้อน และยังมีความฉลาดแสนรู้ ซึ่งยังมีนิสัยค่อนข้างอ่อนโยนและจะชอบใกล้ชิดกับคนที่รู้สึกไว้ใจ อีกหนึ่งข้อดีของแมวเปอร์เซีย คือ จะไม่ปีนป่าย ไม่กระโดด หรือกระโจนไปยังตู้ต่างๆ เพราะน้องแมวไม่ได้กระตือรือร้นมากขนาดนั้นเมื่อเทียบกับแมวพันธุ์อื่น ๆ 
 

เตรียมบ้านอย่างไรให้เหมาะกับแมวเปอร์เซีย

ด้วยนิสัยที่รักความสงบ ไม่ชอบความวุ่นวาย ทำให้สถานที่เลี้ยงแมวเปอร์เซียควรจะไม่มีเสียงดังหรือคนพลุกพล่านรบกวนน้อง เพราะอาจทำให้เกิดความเครียดได้ง่าย นอกจากนี้ ขนยาวๆ ของน้องแมวเปอร์เซีย ควรที่จะต้องหามุมที่มีลมพัด โปร่งสบาย เพื่อให้สบายตัว และไม่ควรปล่อยให้แมวออกไปข้างนอกบ่อย เพราะขนยาวๆ จะทำให้อบอ้าวได้และอาจทำให้ขนไปกวาดเอาสิ่งสกปรกติดมาได้ สำหรับบ้านไหนที่มีพื้นที่รอบบ้าน มีสนามหญ้าให้วิ่งเล่น ควรตรวจสอบว่ามีรั้วรอบขอบชิดเพื่อป้องกันการพลัดหลง

นอกจากนี้ควรเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อม อย่างห้องน้ำแมวสำหรับการขับถ่าย อุปกรณ์ทำความสะอาดอย่างกรรไกรตัดเล็บแมว แชมพูอาบน้ำแมว สำลีเช็ดหู ตะกร้าหรือกระเป๋าใส่แมวเพื่อนำไปหาหมอหรือเที่ยว ตลอดจนชามใส่น้ำและอาหาร และของเล่นเพื่อสร้างความสนุกให้กับแมวได้ ฯลฯ
 

อาหาร สิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจ

ด้วยนิสัยที่ชอบความเรียบง่าย แมวเปอร์เซียจึงชอบที่จะกินอาหารเวลาเดิมเสมอ ซึ่งสารอาหารที่จำเป็นต่อแมวเปอร์เซียจะต้องมีปริมาณแคลอรีในแต่ละวัน คือ 60 กิโลแคลอรีต่อน้ำหนักตัว โดยมีสัดส่วนที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายและกิจกรรมในแต่ละวัน คือ โปรตีนและอะมิโนจำเป็นเพื่อสร้างเนื้อเยื่อ คาร์โบไฮเดรตถือเป็นแหล่งพลังงานของร่างกาย ไขมันช่วยให้พลังงาน วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ โดยวิธีการเลือกอาหารแมวเปอร์เซีย ควรเลือกให้เหมาะกับช่วงวัยโดยเฉพาะและความต้องการต่างๆ และเนื่องจากเป็นแมวขนยาว อาจทำให้จะต้องใส่ใจปัญหาเรื่องเส้นขนที่อาจเข้าไปอุดตันลำไส้ได้ ดังนั้นการมองหาอาหารแมวมีโอ โกลด์ แมวเปอร์เซีย ที่มีส่วนผสมของเยื่อใยธรรมชาติจะช่วยป้องกันการเกิดก้อนขนอุดตันในระบบทางเดินอาหารและขับก้อนขนให้ออกมาพร้อมกับมูลได้ พร้อมช่วยบำรุงขนและผิวหนัง ให้มีสุขภาพดี เงางาม เพื่อการดูแลอีกระดับ

ใครที่สนใจอยากจะซื้ออาหารแมว Me-O สามารถได้ทางช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ https://pcgshoponline.com/ หรือทาง Shopee และ Lazada รวมถึงยังสามารถสั่งผ่าน Facebook: Me-O Thailand ได้เลย เรามีบริการจัดส่งถึงบ้านคุณแน่นอน